วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

the Eames Lounger and Ottoman *




ในปี คศ. 1950 Charles Eames เริ่มออกแบบเก้าอี้ที่มีรูปแบบสมัยใหม่
เพื่อเป็นการตอบโจทย์ของ the Edwardian English club chair 
และเพื่อที่จะใช้เป็นของขวัญวันเกิดให้แก่ Billy Wilder เพื่อนที่ดีของเขา   
( ผู้กำกับหนังรางวัล the Academy Award-winning )

เขาเพียงแค่ต้องการที่จะทำให้เพื่อนของเขารับรู้ถึงความรู้สึกสบายเมื่อนั้งบนตัวเก้าอี้ตัวนี้
ไม่ได้ต้องการชื่อเสียงจากการออกแบบเก้าอี้ตัวนี้  

 ถ้าจะเปรียบเหมือนกับอยู่ในสนามเบสบอล คุณสามารถพูดได้ว่า Eames และภรรยาของเขา 
รวมถึงคู่หูของเขานั้นสามารถทำแต้มได้โดยการสร้างผลงาน หรือสิ่งประดิษฐ์ของพวกเขานั่นเอง 


Eames Lounge Ottoman by Charles Eames


ในปัจจุบันนี้  the Eames Lounger and Ottoman เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ผู้คนนั้นติดตาตรึงใจ 
และชื่นชมมากที่สุดในศตวรรษที่20 นี้ 

ซึ่งได้ถูกนำไปไว้ในห้องนั่งเล่นของคนที่มีชื่อเสียง,ห้องค้นคว้า,ห้องสังสรรค์และแม้กระทั่งห้องส่วนตัว







บางทีอาจจะเป็นเพราะการตอบรับอย่างอย่างดี the Eames Lounger and Ottoman 
จึงเป็นเก้าอี้ตัวแรกที่ the Eames ได้ออกแบบเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าทุนหนา 

งานส่วนใหญ่ของพวกเขาได้ออกแบบให้กับ 
the famed Herman Miller Furniture Company 


นั้นจะเริ่มจากการใช้ไม้อัด สำหรับกรณีนี้โครงสร้างสร้างจากไม้อัดโค้ง 
นำไม้อัดอัดเป็นชั้นๆหลายๆชั้น 

ซึ่งก็ไม่ได้เหมือนกับสิ่งประดิษฐ์ที่ผ่านมาของ Eames, The Lounger and matching Ottoman 
เก้าอี้บุนวมซึ่งมีขนาดหนา และคลุมหนังสัตว์ที่ให้ความรู้สึกสบายเวลานั่ง 

The Lounge Chair เป็นผลงานที่เด่นชัดท่ามกลางงานชิ้นอื่นๆของพวกเขา  

ด้วยความที่เป็นเก้าอี้ ที่ให้ความรู้สึกถึงความหรูหร
บวกกับงานฝีมือที่มีความละเอียดลออ พิถีพิถัน 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า มันจะดูเป็นธรรมชาติมากเมื่อได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในบ้านของคุณ







Dimensions:

Depth:  32.75 "
Width: 33 "
Height: 32.25 "
-------------

Depth:  21"
Width: 25.25"
Height: 17"



Charles Eames Inspired DAR Eiffel Armchair




.
สะท้อนจากโครงร่างของหอไอเฟลในกรุงปารีส 
เป็นผลงานอีกหนึ่งชิ้นของ Charles Eames ที่ติดตามากที่สุด อีกทั้งยังมีดีไซน์เฉพาะตัวอีกด้วย

ในปี 1948 เป็นครั้งแรกของโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้ผลิตเก้าอี้พลาสติกขึ้นมา


ในการสร้างผลงานคลาสสิกเหล่านี้ 
Eames ได้งัดเอา 2 เทคนิคเพื่อฝ่าฟันสิ่งต่างๆเป็นเวลาหลายปี 
โดยการใช้ การโค้งและการเชื่อมโลหะ ด้วยลวดที่ฐานและโครงส้รางที่นั้งทำจากพลาสติกปั้น 
ซึ่งเป็นผลทำให้เก้าอี้ให้ความรู้สึกสบายเป็นอย่างยิ่ง





เริ่มแรกทำจาก fibreglass-เสริมพลาสติก 
ตอนนี้เก้าอี้เหล่านี้ได้รับแรงกระตุ้นให้ใช้ พอลิเอทิลีน ที่เป็นมิตรกับระบบนิเวศมากขึ้น 
โครงสร้างแม่พิมนี้ มีที่นั่งลึก ที่พักแขนเชื่อมรวมติดกันและพนักพิงสูง.
ขอบที่นั่งช่วยให้นั่งสะดวกสบายสำหรับยืดระยะเวลา
โดยการลดแรงกดด้านหลังของเพลา.









เก้าอี้นี้เหมาะสำหรับห้องเด็กๆของ ระเบียงด้านหน้าสำนักงาน ห้องนั่งเล่น และห้องนอน.

The Eames' plastic armchairs ถูกนำเสนอให้เป็นส่วนหนึ่งของการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ต้นทุนต่ำ 
ของ the famed New York Museum of Modern Art competition เป็นครั้งแรก.







Dimensions:

Depth: 58.00cm 
Width: 63.00cm 
Height: 82.00cm



โครงสร้างแรกเริ่มของที่นั้งทำจาก fibreglass-เสริมพลาสติกมารวมกัน 
ภายหลังมีฐานหลากหลายประเภท.
นรุ่นล่าสุดในขณะนี้ของพวกเขาทำจาก พอลิเอทิลีน armchairs ให้ได้นั้งสบายมากขึ้น.


Charles Eames Inspired RAR Rocking Chair



eames_rockers.jpg

(Photo : http://daddytypes.com/2004/05/30/eames_rocker_the_modern_solution.php)



Charles และ Ray Eames ได้รับแรงบัลดาลใจจาก 
Zenith Plastics of California, the RAR Rocker

จึงเป็นหนึ่งในกลุ่มของพลาสติก Armchairs 
ที่พัฒนาขึ้นในช่วงระหว่างปี คศ1948 และ 1953



เปลี่ยนจากม้าโยกสไตส์เก่าเป็นโมเดริน พร้อมด้วยเส้นโค้งเว้าที่มันเงา 
เป็นการออกแบบเครื่องเรือนสมัยใหม่ที่ดีที่สุด




modernlove_eames_detail.jpgmodernlove_base.jpg

(Photo : http://daddytypes.com/2004/05/30/eames_rocker_the_modern_solution.php)


บนยอดฐานทำจากไม้เมเปิ้ล และ ไม้วอลนัท 
การเคลื่อนไหวเวลาที่เก้าอี้โยกนั้นให้ความรู้สึกว่าราบเรียบ ราบรื่น 
และไม่ว่าจะนำไปตั้งไว้ที่ไหนก็รู้สึกเพลิดเพลินและสบายได้ทุกที่
เช่น nurseries, lounges, ห้องนั่งเล่น,ออฟฟิศ หรือแม้กระทั่งห้องนอน



Eames ได้แรงบันดานใจจาก รูปร่างลักษณะของเก้าอี้โยกรุ่น RAR Rocker 
ซื้งเป็นการนำที่วางแขน พนักพิงที่สูง และ ที่นั้งมารวมกัน 
เพื่อการนั่งเอกเขนก ได้อย่างแสนสบาย



โครงสร้างแบบเดิม นั้นมีทั้งสีเทา , เขียวเทา และสีเบจ ซึ่งสามารถเลือกซื้อได้แล้ววันนี้




kino2

(Photo :  http://blog.mcmworldwide.com/view/?category=6&keyword=&keyword2=&pageSeq=11&seq=215 )

กล่าวได้ว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ดูดี ดูมีดีไซน์มากที่สุดของศตวรรษที่20 
Eames® RAR Rocker (1948) ถึงขอให้กลับมาผลิต
ตามคำขอ the Eames® Office, เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี




eamesrocker030109

(Photo :  http://blog.mcmworldwide.com/view/?category=6&keyword=&keyword2=&pageSeq=11&seq=215 )


เริ่มแรกทำจาก fibreglass-เสริมพลาสติก โครงสร้างแม่พิมนี้ มีที่นั่งลึก 
ที่พักแขนเชื่อมรวมติดกันและพนักพิงสูง. ขอบที่นั่งช่วยให้นั่งสะดวกสบาย ระยะเวลายาวนาน
โดยการลดแรงกดด้านหลังของเพลา.ฐานทำจากลวด ตั้งบนยอดไม้เมเปิ้ล 2 ชิ้น หรือ ไม้วอลนัท










Eames_Fiberglass_Rocker_chair



(Photo :  http://blog.mcmworldwide.com/view/?category=6&keyword=&keyword2=&pageSeq=11&seq=215 )
  

Dimensions:

Depth: 69.00cm 
Width: 63.00cm 
Height: 66.00cm




โครงสร้างเสริม fibreglass :  ฐานเหล็ก ชุบโครเมียมตัวโยกไม้เมเปิ้ลขัดมัน.



La Chaise Chair*




(Photo: http://www.stardust.com/eameslachaise.html)


เก้าอี้ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานแกะสลัก “Floating Figure” 
ออกแบบโดย Charles and Ray Eames 

ด้วยดีไซน์ที่แปลกตา แต่ยังคงไว้ถึงความเรียบหรู สง่างาม ตอบรับทุกการใช้งาน 
ผลิตจากไฟเบอร์กลาสคุณภาพดี - เสริมพลาสติก โลหะและไม้.  
ออกแบบสำหรับ การแข่งขัน International ปี 1,948 เพื่อเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ราคาถูก









Vitra La Chaise Lounge Chair by Charles and Ray Eames designed after the Floating Figure sculpture by Gaston Lachaise 



ชื่อ "La Chaise" เป็นชื่ออ้างอิงถึงประติมากร Gaston Lachaise 
และการเล่นคำในชื่อของเขา. Vitra AG ผลิตเก้าอี้ตั้งแต่ 1,990. 






The Eames Lounge Chair Wood *





1940 ในตอนแรก Charles เริ่มคิดที่จะค้นหาหนทางที่จะจัดหาเฟอร์นิเจอร์
ที่ให้ความรู้สึกสบายที่ง่ายต่อการผลิตในจำนวนที่มาก 
ในการเข้าแข่งขัน the Organic Furniture competition 
เขาได้ออกแบบให้เก้าอี้มีที่นั่งและพนักพิงรวมกัน พนักพิงเชื่อมต่อกันโดยการเผาไหม้  
อย่างไรก็ตาม ไม้อัดนั้นมีแนวโน้มที่จะแตกร้าวง่ายถ้าเกิดการคดงอทำมุมอย่างฉับพลัน   
จึงต้องมีการบุด้วยนวม

หลังจากที่ผ่านการลองผิดลองถูก Charles and Ray 
ก็ได้พบกับทางออกในที่สุด โดยทำที่นั้งและพนักพิงแยกเป็นสองชิ้น 
แล้วใช้เศษไม้อัดเชื่อมกับขา. ผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้เก้าอี้นี้เป็นเก้าอี้ที่ให้ความรู้สึกที่สบายพร้อมกับภาพลักษณ์ที่ดูทันสมัย ที่นั่งได้รวมเข้ากับที่พิง และขาเก้าอี้ที่มีชุดของวงแหวนยางเล็กๆที่ช่วยให้น๊อตแน่นไม่รั่วซึม ฝังลงไปในตัวเก้าอี้ (
โดยในตอนหลังได้เปลี่ยนชื่อเรียกเป็น 'shock mounts'

ถึงเก้าอี้ตัวนี้จะมีความพิเศษแต่ก็อาจจะมีข้อบกพร่องที่ซ่อนอยู่ 
ถึงแม้ว่า The shock mounts ดูเหมือนว่ามีแข็งแรงของพนักพิงที่เป็นไม้ 
แต่มันก็อาจจะแยกออกได้ถ้าเกิดใช้งานหนักมากๆ หรือตัวยางอาจจะมีการแตกได้ 
คนส่วนใหญ่แก้ไขปัญหานี้โดยการเจาะโดยตรงเข้าไปที่พนักพิง และก็ใส่ตัวยึดระหว่างพนักพิง
และที่พิงเอว แต่นี่เป็นเหมือนการลดค่าลดความงามของเก้าอี้ โดยทำให้กลายเป็นไม้ที่แข็งทื่อ







Dimensions:
Depth: 58.00cm
Width: 55.00cm
Height: 70.00cm


ทำจาก
Rosewood, walnut, black


    The Organic Chair : Charles & Ray Eames*





    The Organic Chair เป็นเก้าอี้ที่เหมาะแก่การใช้นั่งอ่านหนังสือ 
    ถึงแม้ว่ามันจะมีขนาดเล็กแต่ก็ยังให้ความรู้สึกสบายเป็นอย่างมาก  
    ซึ่งได้ทำขึ้นมาในปี 1940 จากการจัดการแข่งขันของ New York MoMA's 
    ในหัวเรื่องของ “Organic Design in Home Furnishings"


    การปรากฏตัวของเก้าอี้ในครั้งแรก Eames' famous Plastic Armchair 
    เป็นที่น่าสนใจและน่าประหลาดใจไม่น้อยในตอนที่ผู้คนที่มาชมได้ทดลองนั่งไปบน the Organic Chair 
    และดูเหมือนรอยยิ้มได้ออกมาจากทางสีหน้าของพวกเขาโดยไม่รู้ตัวในทันที
    ที่พวกเขาค้นพบความสบายที่ซ่อนอยู่ในเก้าอี้

     จัดได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอกในเรื่องของดีไซน์ ที่เหมาะกับรูปร่างของมนุษย์เพื่อช่วยในเรื่องของการผ่อนคลาย 
    และหลายคนยอมรับว่า the Organic Chair เป็นเก้าอี้ที่มีความเป็นไปได้สูงที่จัดได้ว่าเป็นเก้าอี้ที่ดีที่สุด
    Organic Chair สามารถนำไปวางไว้ในห้องต่างๆได้ และดูเหมือนว่าเหมาะที่จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ของออฟฟิศที่มีตกแต่งเป็นแบบสมัยใหม่ หรือ อาจจะเป็นเพียงแค่เก้าอี้ที่ใช้ในการนั่งอ่านหนังสือตามที่มันถูกดีไซน์ขึ้นมาเพื่อสิ่งนี้ตั้งแต่แรก





    Dimensions:
    Depth: 64.00cm
    Width: 74.00cm
    Height: 85.00cm

    ทำจาก : แม่พิมพ์ ไม้อัดไม้ ยางโฟมและผ้า.

    Charles & Ray Eames




     Charles & Ray Eames  
    ซึ่งทั้งสองถือเป็นผู้บุกเบิกแนวทางการออกแบบใหม่ของศตวรรษที่ 20
    โดยพัฒนารูปทรงสมัยใหม่และเปลี่ยนจากความแข็งของบาวเฮาส์เข้าสู่ความนุ่มนวล
    ทั้งสองเป็นนักออกแบบที่แนวหน้าที่ใช้สอย (Functionalist) 
    เช่นเดียวกับบาวส์เฮาส์ แต่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่แตกต่างออกไป ในด้านรูปทรงและการใช้วัสดุ







    วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555

    German Stylist Irina Graewe


    เอาผลงานที่น่าสนใจของ STYLIST สาวชาวเยอรมันนีมาฝาก
    เธอคนนี้ ชื่อว่า  Irina Graewe 


    Stylist Irina Graewe





    "Bonjour Tristesse."
    ผลงานชิ้นนี้ เธอใช้อารมณ์โทนสีที่นุ่มนวลของสีน้ำเงิน และสีเทา
    ดึงความน่าสนใจของงาน
    ทำให้งานชิ้นนี้ดูมีสเน่ห์ และได้อารมณ์เป็นอย่างมาก

    Stylist Irina Graewe


    "Patchwork collection of pinks and neutrals"
    งานชิ้นนี้เธอใช้ความโดดเด่นสวยงามของลาย  pattern  
    บวกกับการใช้สีสันที่สดใสอ่อนหวาน ทำให้งานชิ้นนี้มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย


    Stylist Irina Graewe




    " Culture Club ensemble"

    ผลงานชิ้นนี้จุดเด่นของงาน เธอใช้ขนนกสีชมพู และโคมไฟกระดาษ ลายจุดสีดำ สุดเก๋ 
    ซึ่งคุณสามารถหามันได้ในราคาไม่แพงจาก IKEA
    ด้วยราคา 5 Euro ก็สร้างลุคให้ผลงานชิ้นนี้น่าสนใจไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว





    Irina ได้เริ่มต้นของเธอเป็นช่างตัดเย็บสำหรับ Jil Sander ใน Hamburg
    และจากนั้นย้ายมาลอนดอนเพื่อเข้าศึกษาที่ the London College of Fashion.
    เมื่อจบการศึกษาเธอจึงรู้ว่าแท้จริงของเธอสนใจอยู่ไม่ใช่งานเกี่ยวกับแฟชั่น 
    แต่เป็นงานเกี่ยวกับการตกแต่งภายใน ดังนั้นเธอจึงย้ายกลับไปยังประเทศบ้านเกิดของเธอ
    เพื่อการประกอบอาชีพ interior styling และ set design
    และผลงานของเธอได้ปรากฏในนิตยสารชั้นนำทั่วประเทศเยอรมนี


    ผลงานของเธอแสดงให้เห็นถึงความชอบและ ความใส่ใจในรายละเอียด
    และวิธีการที่แปลกใหม่ซึ่งเป็นที่น่าสนใจ
    เพราะสไตล์การตกแต่งภายในอาจจะเป็นสิ่งที่ดูน่าเบื่อ
    เมื่อจัดเรียงอย่างสมบูรณ์แบบกินไป 









                         http://www.irinagraewe.de/about.html